B = ช่องเสียบที่มีวงจรฟิลเตอร์ดิจิตัล
ไม่มีฟังท์ชั่นใช้งานสำหรับผู้ใช้ที่ช่องนี้
(จากต้นฉบับของ วิลเลี่ยม เช็กเปียร์)
จะทำหน้าที่ช่วย “ดัน” เสียงกลาง–แหลมบริเวณตรงกลางของเวทีเสียง (พื้นที่ระหว่างลำโพงซ้าย–ขวา) ให้ลอยขึ้นมา ไม่จมลงไป ซึ่งวิธีนี้จะช่วยทำให้ได้รูปวงเวทีเสียงที่ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เนื่องจากสภาพห้องลักษณะที่ซ้าย–ขวาเปิดโล่งจะไม่มีการสะท้อนของผนังซ้าย–ขวาเข้ามาช่วยเสริมความถี่ การใช้แผ่นดิฟฟิวเซอร์ไปติดตั้งไว้ตรงกลางบนผนังด้านหลังตำแหน่งวางลำโพงจะช่วยเพิ่มมวลของเสียงในย่านกลาง–แหลมให้มีความเข้มข้นมากขึ้น
ด้วยใช้ปัจจุบันมีลำโพงชนิดใหม่ ๆ และฟังก์ชันที่สุดแสนจะทันสมัยจึงทำให้เครื่องเล่นแผ่นเสียงแบบคลาสสิกหายากเข้าไปทุกที ๆ ดังนั้นใครที่ยังรักความวินเทจของเครื่องเล่นแผ่นเสียงและคิดที่จะจับจองก็ควรศึกษาวิธีใช้ การเลือกอุปกรณ์หรือฟังก์ชันความต้องการที่เหมาะสมกับเรามากที่สุดค่ะ เพราะสุดท้ายแล้วเวลาที่ตัดสินใจซื้อก็อยู่ที่ประเภทการใช้งานอยู่ดีค่ะ ไรเตอร์จึงแนะนำว่าพิจารณาตามความเหมาะสม ถ้าเน้นเสียงและสามารถใช้งานได้ง่ายก็ควรเลือกเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่มีโหมดอัตโนมัติ แต่ถ้าใครที่เป็นสายสะสมอยู่แล้วหรือเป็นมือฉมังอยู่พอตัวก็จะมีทริคเป็นของตัวเองอยู่แล้วใช่ไหมล่ะคะ สามารถเลือกตามความชอบและเครื่องเล่นแผ่นเสียงตัวฮิตเผื่อเกร็งกำไรในอนาคตได้ ก็ยิ่งดีเลยค่ะ
ใช้แสดงค่าขณะใช้งาน และแสดงรายละเอียดของหัวข้อเมนูต่างๆ ขณะทำการปรับตั้งค่า แม้ในขณะควบคุมการทำงานด้วยรีโมทไร้สาย บนจอนี้ก็จะแสดงผลไปตามลักษณะการปรับตั้งบนรีโมทด้วย (เซ็นเซอร์ที่รองรับคำสั่งจากรีโมทติดตั้งอยู่ในจอนี้)
ความเป็นอยู่ที่ดีเริ่มต้นด้วยการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
สำหรับการเซ็ตอัพลักษณะที่แนะนำไปนี้ แผงดิฟฟิวเซอร์
สามารถเปลี่ยนสายไฟเพื่ออัพเกรดคุณภาพเสียงได้
C = ช่องเสียบที่มีวงจรฟิลเตอร์ดิจิตัล
เมื่อเทียบกับเสียบผ่านปลั๊กรางสามร้อยบาท
ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะสัดส่วนของห้อง, คุณสมบัติในการดูดซับ/สะท้อนของพื้นผิวบนผนังเดิม ซึ่งคุณต้องวิเคราะห์ปัญหาตรงตำแหน่งนั้นๆ ออกมาก่อน ยกตัวอย่างเช่น กรณีที่ผนังด้านข้างซ้ายและขวาทำด้วยวัสดุที่มีความแข็ง รีวิวเครื่องเสียง อย่างเช่นปูนหรือกระจก และลำโพงวางห่างผนังไม่มาก รูปแบบนี้มีโอกาสที่เสียงในย่านแหลมและย่านกลางจะก้องสะท้อนมากเกินไป การแก้ปัญหาก็ควรใช้ตัว
ซึ่งกันและกัน เหตุผลที่ต้องทำแบบนี้เป็นเพราะพื้นฐานของระบบเสียงสเตริโอที่ใช้การกระจายคลื่นเสียงผ่านออกมาทางลำโพงสองตัว เข้ามาผสมกันตรงตำแหน่งนั่งฟังกลายเป็นสนามเสียงเดียวกัน ดังนั้น ลำโพงซ้าย–ขวาจะต้องมีคุณสมบัติในการกระจายเสียงที่เหมือนกันทุกประการ (เฟส, ความถี่ตอบสนอง, ไดนามิกเร้นจ์) รวมถึงสภาพอะคูสติกที่อยู่รอบๆ ลำโพงทั้งสองข้างก็ต้องเหมือนกันด้วย
นั้นจะติดตั้งยากกว่าหน่อย เพราะด้านหลังมันเป็นแผ่นฟองน้ำ และมีการปาดมุมให้มีลักษณะเอียงเฉียงสโลปลงไปทางด้านหลังด้วย โดยมากจะใช้วิธีติดกาวลงบนผนัวโดยตรง ซึ่งก็ควรจะทำหลังจากทดลองฟังจนได้ตำแหน่งที่ลงตัวแล้ว
Comments on “รีวิวเครื่องเสียง for Dummies”